หญ้า 3 ชนิด ที่นำมาเพาะเห็ดได้

การเพาะเห็ด
 
หญ้า 3 ชนิด ที่นำมาเพาะเห็ดได้

ปัจจุบัน ชุมชนท้องถิ่นบางแห่งในเขตภาคเหนือ  โดยเฉพาะเขตภูเขา และชุมชนตามแนวชายแดน มักมีการประกอบอาชีพไม่เป็นหลักแหล่ง และมีการทำเกษตรกรรมที่ไม่ยั่งยืน เช่น การทำไร่เลื่อนลอย การปลูกพืชเสพติด หรือแม้กระทั่งการตัดไม้ทำลายป่า ก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม  การไม่ได้รับการศึกษาและการขาดการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นสาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าว  การสร้างอาชีพโดยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดความสอดคล้องกับชุมชนนับเป็นทางเลือกที่นักวิชาการ นักวิจัย ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ต้องให้ความสนใจ  ไบโอเทคได้เล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาแบบยั่งยืนในพื้นที่สูงและด้านนิเวศวิทยาของชุมชน ด้วยการพัฒนาอาชีพชุมชนในชนบทและการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ จึงได้สนับสนุนทุนโครงการวิจัย “ศึกษาการใช้วัชพืชในเขตพื้นที่ไร่เลื่อนลอยเพื่อเป็นวัสดุเพาะเห็ดชนิดต่างๆ”  โดยมีนางสาวนันทินี  ศรีจุมปา  นักวิชาการเกษตร  จากศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป็นหัวหน้าโครงการ โครงการวิจัยนี้ ได้ใช้โจทย์ของการส่งเสริมการประกอบอาชีพเพาะเห็ดในชุมชนหมู่บ้านปางสา อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงใหม่ นำไปสู่อาชีพที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของการใช้วัสดุในท้องถิ่นให้เป็นประโยชน์ โดยหวังผลสำเร็จของโครงการให้เป็นกรณีศึกษาสำหรับพื้นที่ใกล้เคียงและพื้นที่อื่นที่มีลักษณะภูมิประเทศและเงื่อนไขใกล้เคียงกัน

ในขั้นต้นผู้วิจัยได้ศึกษาวัชพืชในท้องถิ่น และคัดเลือกวัชพืชที่เหมาะสมมาทดลองเพาะเห็ดแทนขี้เลื่อยไม้ยางพาราซึ่งเป็นวัสดุหลักในการทำก้อนเชื้อเพาะเห็ดที่มีแนวโน้มของราคาสูงขึ้นเนื่องจากต้นทุนด้านการขนส่ง ในขณะเดียวกันผู้วิจัยได้ประดิษฐ์เครื่องต้นแบบในการบดย่อยวัชพืชที่ได้ เนื่องจากลำต้นของวัชพืชมีลักษณะแข็ง ยากต่อการตัด หรือสับ ต่อมาจึงนำวัชพืชที่คัดเลือกแล้วมาบดย่อยโดยเครื่องต้นแบบที่พัฒนาได้ และนำวัชพืชมาผสมกันในอัตราส่วนต่างๆ และนำมาหมัก หลังจากนั้นจึงทดลองเพาะเลี้ยงเห็ดตระกูลนางรมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่เหมาะสม

จากการวิจัย  สามารถนำวัชพืชในท้องถิ่นจำนวน 3 ชนิด คือ หญ้าแขม หญ้าเลา และหญ้าก๋ง มาใช้เป็นวัสดุเพาะเห็ดตระกูลนางรม คือ เห็ดนางรมฮังการี  และเห็ดนางฟ้าภูฏาน และพบว่าผลผลิตเห็ดที่ได้สูงกว่าการใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพารา ซึ่งแสดงว่าวัชพืชดังกล่าวมีศักยภาพเพียงพอที่จะใช้เป็นวัสดุเพาะเห็ดทดแทนขี้เลื่อยได้ นอกจากนี้ เมื่อนำเห็ดทั้งสองชนิดที่เพาะจากวัชพืชมาวิเคราะห์ปริมาณโปรตีนพบว่ามีปริมาณมากกว่าเห็ดที่เพาะจากขี้เลื่อยไม้ยางพารา โครงการนี้ไม่เฉพาะเพียงทีมผู้วิจัยเท่านั้นที่ดำเนินงานวิจัย ประชากรในชุมชนยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจและเลือกชนิดของวัชพืช ตลอดจนการทดลองเพาะเห็ด นับเป็นโครงการวิจัยหนึ่งที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชนในด้านบวก  ในอนาคตเมื่อมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างทั่วถึง ชุมชนจะสามารถประกอบอาชีพที่ยั่งยืนทดแทนการทำไร่เลื่อนลอย เท่ากับว่าเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง

ที่มา:ศูนย์ไบโอเทค

อาหารเสริมเพิ่มผลผลิตเห็ด


เพิ่มผลผลิตเห็ด
 
เพิ่มผลผลิตเห็ดด้วยอาหารเสริม

จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันได้มีการทดลองเพิ่มผลผลิตเห็ดด้วยกรรมวิธีต่างๆมากมายครับ แต่ที่นิยมกันมากที่สุด และเป็นวิธีที่ผิดอย่างมาก ก็คือ การใช้ปุ๋ยยูเรีย ในการเร่งการเกิดดอกของเห็ด จริงอยู่ว่าการใช้ปุ๋ยยูเรีย จะช่วยทำให้ดอกเห็ดน้ำหนักดีทันตาเห็น แต่ผลเสียที่ตามมาก็คือ ก้อนเห็ดจะโทรมเร็วอย่างรวดเร็ว และมีการสะสมเชื้อโรคและแมลงต่างๆได้ง่าย และที่สำคัญที่สุด ดอกเห็ดจะช้ำและเน่าเสียง่าย เห็ดมีรสขม มีกลิ่นบูดเปรี้ยว แถมยังราคาตกอีกด้วย

จริงๆแล้วการที่เราจะเพิ่มผลผลิตเห็ดได้นั้น ต้องพิจารณาตั้งแต่ อาหารเสริมที่จะใส่เข้าไปในการทำก้อนเชื้อ หรือก้อนอาหารเห็ด โดยต้องศึกษารายละเอียดให้รู้ว่า แท้จริงแล้วเห็ดต้องการธาตุอาหารมากกว่า 16 ชนิดขึ้นไป การใช้เพียงรำละเอียด ปูนขาว และดีเกลือเท่านั้น จะไม่ทำให้ได้ผลผลิตสูงเท่าที่ควร เกษตรกรผู้เพาะเห็ดควรเติมธาตุอาหารอย่างอื่น เช่น รำข้าวสาลี มอลต์ข้าวโพด ใบกระถิน ส่าเหล้า แป้งเอ็นไซม์ หินฟอสเฟต ปูนโดโลไมท์ เข้าไปด้วย จึงจะทำให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นได้ คุณภาพของดอกเห็ดก็จะดี ไม่บานหรือเน่าง่าย ส่วนการที่จะเพิ่มผลผลิตดอกเห็ด หรือยืดอายุก้อนเชื้อให้นานขึ้นนั้น ไม่ควรใช้ปุ๋ยยูเรีย ที่เป็นสารเคมีโดยเด็ดขาด ควรใช้ธาตุอาหารเสริมอินทรีย์แทน เหตุผลก็เพราะว่า ในการเพาะเห็ดไม่สามารถใช้สารเคมีได้) ตัวอย่างอาหารเสริมอินทรีย์ เช่น สารสกัดจากเปลือกไม้ หรืออาจใช้น้ำหมักชีวภาพฉีดพ่นเป็นประจำ หรือใช้แร่ธาตุกระตุ้นดอกเห็ดที่มีสารอาหารที่เห็ดต้องการมากมาย (แร่ธาตุกระตุ้นดอกเห็ด สามารถสั่งซื้อได้จากชมรมเกษตรปลอดสารพิษ)

3 เมนูเด็ดเห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า

3 เมนูเด็ดเห็ดนางฟ้า

1.แหนมเห็ดนางฟ้า

ส่วนผสมสำหรับเมนู แหนมเห็ดนางฟ้า

1. เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรมหรือเห็ดฮังการี 2 กิโลกรัม
2. ข้าวเหนียวนึ่งสุก 1/2 ถ้วย
3. กระเทียม 50 กรัม
4. เกลือไอโอดีน 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ แหนมเห็ดนางฟ้า

1.ให้เลือกเห็ดนางฟ้าที่กำลังจะบานแต่อย่าให้บานเต็มที่ ล้างเห็ดนางฟ้าให้สะอาด เอาส่วนที่เป็นโคนเห็ดออกให้เหลือแต่ดอกเห็ด เสร็จแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำไปนึ่ง 3 นาที เอามาผึ่งให้เย็นแล้วคั้นน้ำออก
2.นำมาผสมกับเครื่องปรุงที่เหลือ ผสมทุกอย่างเคล้าให้เข้ากัน
3.นำไปนึ่งอีก 1 - 2 นาที แล้วจึงนำมาห่อ (หากต้องการให้เปรี้ยวเร็ว ก็ให้เพิ่มข้าวเหนียวนึ่งเข้าไปในส่วนผสมอีก)

2.เห็ดนางฟ้าสามรส

ส่วนผสมสำหรับทำเห็ดนางฟ้าสามรส

1.เห็ดนางฟ้า 2 กิโลกรัม
2.ซีอิ้วขาว 1/2ถ้วย
3.น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
4.เกลืออีกเล็กน้อย

วิธีทำเห็ดนางฟ้าสามรส

1. เห็ดนางฟ้าสด 2 กิโลกรัม ฉีกเป็นเส้นฝอย ขนาด 1 เซนติเมตร ล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำไปผึ่งในที่รมจนกว่าจะสะเด็ดน้ำ

2. ผสมซีอิ้วขาว 1/2ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ถ้วย และเกลืออีกเล็กน้อย ลงในกะละมังที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน

3. นำเห็ดนางฟ้าที่นำมาผึ่งไว้ลงในกะละมัง ครั้งละ 1 กำมือ เคล้าให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นใส่เห็ดนางฟ้าลงในถุงตาข่ายที่ทำจากผ้าบีบน้ำออก หากบีบน้ำแรงเกินไป จะทำให้น้ำออกหมด ไม่เหลือรสชาติของเห็ดและเครื่องปรุง แต่ถ้าหากออกแรงบีบน้อยเกินไปเห็ดจะเปียก เวลาทอดจะสุกช้าและนิ่มไม่น่ารับประทาน

4. ใส่เห็ดลงในถาด หรือกระด้งพักไว้ ตั้งกระทะใช้ไฟแรงจัด ใส่น้ำมันให้ท่วม เมื่อน้ำมันร้อนจัดแล้ว นำเห็ดลงไปทอดหมั่นคนเพื่อไม่ให้เห็ดไหม้ติดกระทะ (ดูพอเห็ดเลืองกรอบก็ใช้ได้)

5. เมื่อทอดเสร็จแล้ว ให้ตักเห็ดลงในถาดที่เตรียมไว้ รอจนกว่าจะสะเด็ดน้ำมัน แล้วนำไปพักในถาดที่รองด้วยกระดาษซับมันอีกทีหนึ่ง พักไว้1 วัน จากนั้นนำเข้าเตาอบ 100 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 30 นาที เท่านั้นก็เสร็จเรียบร้อย ใส่ลงในถุงพลาสติกหรือกล่องพลาสติกก็ได้ แต่ต้องปิดให้สนิทไม่ให้ลมเข้าเพราะจะทำให้นิ่ม

3.เห็ดนางฟ้าแดดเดียว

ส่วนผสมสำหรับ เมนูเห็ดนางฟ้าแดดเดียว

1. เห็ดนางฟ้า 1/2 ก.ก
2. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
4. ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
6. ซีอิ้วดำ (ใส่พอให้มีสีสันน่ารับประทาน)
7. ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
8. งาขาวคั่ว ตามแต่ชอบ

วิธีทำ เห็ดนางฟ้าแดดเดียว

1. นำเห็ดนางฟ้ามาคลุกรวมกับเครื่องปรุง หมักไว้ประมาณ 30 นาที
2. แล้วนำเห็ดนางฟ้าที่หมัก มาแผ่ลงบนกระด้ง หรือถาดตากกลางแดดไว้ 1 วัน
3. เวลารับประทานให้นำมาทอดกับน้ำมันที่ร้อนจัด จะมีรสชาติที่อร่อย อย่าบอกใครเชียวล่ะ

การทำแหนม เห็ดนางรม,นางฟ้า

สูตรการทำแหนมเห็ดนางฟ้า - นางรม
          
             ในการเพาะเห็ดนางฟ้า-นางรม เมื่อเก็บเกี่ยวและนำไปจำหน่าย พบว่าจะมีเศษเห็ด เห็ดที่แก่และบางส่วนเหลือจากบริโภค หรือเหลือจากการจำหน่าย น้อยบ้าง มากบ้าง คุณบุญเพ็ง คำเลิศ เกษตรกร จังหวัดศรีสะเกษ  จึงได้คิดค้นว่าเศษเห็ดเหล่านี้น่าจะนำไปใช้ประโยชน์อื่นได้ จนได้ศึกษาหาความรู้ การทำแหนมเห็ดเก็บไว้บริโภค ปรากฏว่า เมื่อลองทำและเก็บไว้กินกันเอง และมีเกษตรกรข้างเคียงสนใจขอซื้อไปบริโภค จึงได้ขยายปรับเปลี่ยนรสชาด  เป็นแหนมสูตรที่เหมาะสำหรับคนกินเจและคนทั่วๆไป คือมีทั้งแหนมเห็ดสูตรเจ และแหนมเห็ดไม่เจ (ใส่หมู)

เครื่องปรุง/ส่วนผสม 

1. เห็ดนางฟ้านางรม หรือเห็ดฮังการี นึ่งสุกคั้นเอาน้ำออก 1 กิโลกรัม
2. เนื้อหมู 2 ขีด
3. ข้าวเหนียว 1 ปั้น
4. เกลือไอโอดีน 2 ช้อนแกง
5. กระเทียม 50 กรัม

วิธีทำแหนมเห็ด

1. ล้างเห็ดให้สะอาดเอาส่วนที่เป็นโคนออกให้เหลือแต่ดอกเห็ด เสร็จแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็กๆเหมือนหนังหมูที่เราหั่นใส่แหนม จากนั้นนำเห็ดไปนึ่ง 3 นาทีเอามาผึ่งให้เย็น แล้วคั้นน้ำออก

2. นำเนื้อหมูไปสับ กระเทียมปอกเปลือกทุบให้ละเอียด นำส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วนำไปนึ่งอีก 1-2 นาที แล้วนำมาห่อด้วยพลาสติก หรือใบตอง ถ้าต้องการรับประทานเร็วให้ใส่ข้าวมากๆ แหนมจะเปรี้ยวเร็ว

***หมายเหตุในกรณีจะทำแหนมเจ ไม่ต้องใส่หมู

แหนมเห็ดนางฟ้า การถนอมอาหารแบบไทยๆ

          ใครที่ทำโรงเพาะเห็ดแล้วมีเห็ดที่เหลือจากการขายไม่รู้จะทำอะไรกับเห็ดนั้นวันนี้เรามี“แหนมเห็ด” โดยใช้เห็ดนางฟ้าเป็นส่วนผสมมาแนะนำลองทำกันดูเผื่อว่าจะทำเป็นรายได้เสริมกันได้

++ส่วนผสมก็มี++
1.เห็ดนางฟ้า นึ่งสุกแล้วคั้นเอาน้ำออก บีบพอหมาดๆ 1 กิโลกรัม
2.เนื้อหมูบด หรือสับ 2 ขีด
3.ข้าวนึ่งสุก ประมาณ 2 ขีด
4.กระเทียมปอกเปลือก 1 กำมือ(น่าจะประมาณนี้) บุบพอแหลก
5.เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
6.พริกสด

++วิธีทำ++
นำเห็ดนางฟ้าที่นึ่งประมาณ 3 นาที พอสุกก็ยกลงทิ้งไว้ให้เย็น บีบน้ำออก แล้วเอามาฉีกเป็นเส้นๆ คือเราจะให้เห็ดแทนหนังหมูมาทำแหนม แต่ต้องใช้มากหน่อยเพราะเราทำแหนมเห็ดต้องให้เห็ดเป็นพระเอกครับพอได้พระเอกของเราแล้ว ก็เอาพระรอง (หมูบด), กระเทียมบุบ, แกลือ เอามาคลุกรวมกัน แล้วยัดใส่ถุงพลาสติกแนบพริกสดไปซักเม็ดสองเม็ดรัดยางให้แน่น เก็บไว้ในตู้กับข้าวไว้ 3-4 วัน ก็นำมาทานได้แล้วครับ

อีกสูตรหนึ่ง ใช้เส้นเซี่ยงไฮ้แทนหมู แล้วก็เปลี่ยนจากเห็ดนางฟ้าฉีก ก็ให้เอามาสับแทน นอกจากนั้นทำเหมือนกัน


ที่มา
http://www.bankaset.com

แปรรูปเห็ดเป็นอาหาร เพิ่มรายได้

เห็ดนางฟ้า

การแปรรูปเห็ด
________________________________________
การแปรรูปเห็ด ศูนย์รวมสวนเห็ดอรัญญิก ได้ศึกษาทดลองนำเห็ดมาประกอบเป็นอาหารคาวหวาน และของขบเคี้ยวมากมายหลายชนิด ซึ่งไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อน นับเป็นภูมิปัญญาที่น่ายกย่องเป็นอย่างยิ่ง ตัวอย่างผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเห็ดได้แก่

** น้ำพริกตาแดงเห็ดฟาง **
ส่วนประกอบ
- ดอกเห็ดฟาง 2 ขีด
- ปลาย่างแกะเนื้อ 1/4ถ้วย
- พริกแดงแห้ง 6 เม็ด
- กระเทียม 7 กลีบ
- หัวหอม 3 หัว
- น้ำปลา 1 ช้อนตวง
- น้ำมะขาม 1 ช้อนตวง
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนตวง
- มะม่วงสับ 1/2 ถ้วย

วิธีทำ
1. ดอกเห็ดฟางตูมขนาดพอเหมาะนำมาย่างไฟพอสุก
2. ปลาช่อนย่างแกะเนื้อ ย่างพริก, กระเทียม, หัวหอม
3. นำส่วนผสมข้อ 1, 2 นำมาโขลกให้เข้ากัน จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ และมะม่วงสับ รสออกเปรี้ยว
4. จัดใส่ภาชนะรับประทานกับผักสด
________________________________________
** น้ำพริกหนุ่มเห็ดฟาง **
ส่วนผสม
- ดอกเห็ดฟาง 2 ขีด
- พริกชี้ฟ้าสด (สีเขียว) 8 เมล็ด
- พริกชี้ฟ้าสด (สีแดง) 2 เมล็ด
- กระเทียม 2 หัว
- หัวหอม 5 หัว
- กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. นำดอกเห็ดฟางมาห่อใบตองแล้วย่างให้หอม
2. นำพริกชี้ฟ้าสดมาย่างแล้วลอกเปลือกนอกออก
3. นำกระเทียม หัวหอม กะปิ มาย่างให้หอม แล้วโขลกรวมกัน
4. โขลกพริกชี้ฟ้าผสมลงใน ข้อที่ 3 แล้วใส่เห็ดโขลกรวมกันจนเข้ากันดี ปรุงรสด้วยเกลือป่น ชิมรสตามชอบรับประทานได้
หมายเหตุ : รับประทานกับไข่ต้ม ผักสดต่าง ๆ เช่น ถั่วฝักยาว ผักกระเฉด ฯลฯ
________________________________________
** ตะโก้เห็ด **
เครื่องปรุง
- แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- น้ำ 4 ถ้วยตวง
- กะทิคั้นข้น ๆ กรองด้วยผ้าขาวบาง 1 1/2 ถ้วย
- แป้งถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
- เห็ดหูหนู หั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าขนาด 1 ซ.ม. 1 ถ้วยตวง
- เกลือ 2 ช้อนชา
- กระทงเล็ก ๆ
วิธีทำ
1. ผสมน้ำตาล 1 ถ้วยกับน้ำ 1 ถ้วย เชื่อมให้เข้ากัน แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง
2. ผสมแป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยกับน้ำเชื่อม โดยค่อย ๆ ใส่ให้แป้งละลายดี เติมน้ำ 1 ถ้วยลงในกะทะทองเหลืองที่สะอาดตั้งบนไฟกลาง ใช้พายหรือช้อนไม้กวนให้เข้ากันดี อย่าให้ติดกะทะเวลากวนหมั่นขูดก้นกะทะเสมอ กวนจนเหนียวประมาณ 1/2ชั่วโมง ยกลงตักใส่กระทงประมาณ 1/2 ของกระทง
3. ทำกะทิหยอดหน้า โดยใช้แป้งข้าวเจ้า ผ ถ้วยตวง แป้งถั่ว 2 ช้อนโต๊ะลงในกะทิ คนให้ละลายเข้ากันดี ใส่เกลือ 2 ช้อน คนเช่นเดียวกันกับตัวตะโก้ พอข้นและเดือดจนทั่วแล้วยกลง ตักใส่กระทงทับบนตัวตะโก้ให้เต็มกระทงพอดี (ตักใส่ขณะร้อน ๆ เพราะถ้าเย็นหน้าขนมจะไม่สวย)
________________________________________

** เยลลี่เห็ด **
เครื่องปรุง
- เห็ดหูหนู 2 1/2ขีด
- น้ำตาลทราย 2 1/2ขีด
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- น้ำมะขาม 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. นำเห็ดหูหนูมาต้มให้เดือดนานประมาณ 5-10 นาที ตักขึ้นสะเด็ดน้ำให้แห้งแล้วปั่นให้ละเอียด นำไปใส่หม้อตั้งไฟ ใส่น้ำตาลและเกลือลงไป เคี่ยวให้ละลาย
2. เติมน้ำมะขามลงไป เคี่ยวด้วยไฟกลางประมาณ 15 นาที เสร็จแล้วเทลงบนแผ่นพลาสติกแล้วปาดให้เรียบ นำไปตากแดด 2-3 แดด ม้วนตัดเป็นชิ้น ๆ คลุกด้วยน้ำตาล
________________________________________

** วุ้นเห็ดกะทิ **
เครื่องปรุง
- ผงวุ้น 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ 3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- น้ำใบเตยคั้นข้น 3 ช้อนโต๊ะ
- เครื่องปรุงเห็ดสำหรับทำเห็ดที่จะใส่ลงในวุ้น
- เห็ดนางรมขาวฉีกเป็นเส้นเล็ก ๆ 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำใบเตย 2 ช้อนโต๊ะ
- เครื่องปรุงกะทิทำหน้าวุ้น
- มะพร้าวคั้นกะทิข้น 1 ถ้วยตวง
- เกลือ 1/2 - 1 ช้อนชา
- วุ้นละลายที่แบ่งไว้ 1 ถ้วยตวง
- ผงวุ้น 2 ช้อนชา

วิธีทำเห็ดที่จะใส่ในวุ้น
นำเอาเห็ดใส่หม้อแล้วใส่น้ำตาลทรายเคี่ยวพอเดือด ใส่น้ำใบเตยเคี่ยวต่อไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายเข้าเนื้อเห็ด
วิธีทำตัววุ้น
1. ผสมผงวุ้นกับน้ำ ตั้งไฟจนเดือด ใส่น้ำตาลทรายคนจนละลายแล้วกรองเอาขี้ผงออก
2. ตักวุ้นที่ต้มเสร็จออก 1 ถ้วยตวงสำหรับทำหน้าวุ้น
3. วุ้นที่เหลือตั้งไฟต่อเอาเห็ดเชื่อมและน้ำใบเตยใส่ ต้มต่อไปจนเดือด แล้วยกลงเทใส่ถาดเหลี่ยมหรือภาชนะที่เตรียมไว้ อาจจะเป็นพิมพ์ทำวุ้น
วิธีทำกะทิ
ผสมกะทิกับเกลือ วุ้นละลายและผงวุ้นให้เข้ากัน ใส่หม้อตั้งไฟคนจนเดือด อย่าให้เป็นฝ้า แล้วยกเทลงในถาดที่มีวุ้นรออยู่ พอวุ้นแข็งตัวก็ใช้มีดตัดรับประทานเป็นอาหารว่าง
________________________________________

** ขนมปังหน้าเห็ด **
เครื่องปรุง
- เห็ดสับละเอียด 2 ขีด
- หอมหัวใหญ่หั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1 ถ้วยตวง
- รากผักชีโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- ซอสแม๊กกี้ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาหรือซีอิ้ว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมหั่นฝอย (เอาเฉพาะสีขาว) 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- ขนมปัง 20 แผ่น
วิธีทำ
1. เจียวกระเทียมให้เหลือง ใส่รากผักชีและเห็ดลงผัดพอสุก ใส่พริกไทยและหอมใหญ่ ผัดต่อจนแห้ง ใส่เครื่องปรุงรสทั้งหมดแล้วใส่ต้นหอม คนแล้วรีบยกลงทันที
2. ตักใส่ชามผสมพอคลายความร้อนจึงตีไข่ลงไป คนให้เข้ากัน
3.นำขนมปังมาทาเห็ดให้หนาพอสมควร แล้ววางขนมปังด้านที่ทาลงบนกะทะสักครู่ พอสุกเหลืองจึงกลับอีกด้านหนึ่งลงพอสุกเหลืองหอมดีแล้วจึงนำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำจัดใส่จาน รับประทานเป็นอาหารว่าง
________________________________________
** ข้าวเกรียบเห็ด **
เครื่องปรุง
- แป้งมัน 2 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำ 1 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- เห็ด (ยกเว้นเห็ดหูหนู) 2 ขีด
- งาป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย
- เกลือ
วิธีทำ
1. นำเห็ดมาฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ พักไว้ นำเครื่องปรุงที่เหลือทั้งหมด ผสมเข้ากันแล้วนำมาใส่เครื่องปั่นให้ละเอียด
2. ให้อุปกรณ์แบบทำข้าวเกรียบปากหม้อ ตั้งน้ำให้เดือด แล้วนำของเหลวที่ปั่นละเอียดมาละเลงบนผ้าขนาดใหญ่เล็กตามต้องการ ปิดฝาพอสุกก็แซะใส่ตะแกรง แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง เมื่อแห้งแล้วก็นำมาทอดให้เหลือง
________________________________________

** ทับทิมกรอบเห็ด **

เครื่องปรุง
- แห้วจีน 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 2 1/2ถ้วยตวง
- มะพร้าวขูดชนิดขาว 1/2 กิโลกรัม
- เกลือ 3 ช้อนชา
- แป้งมัน 1/2 กิโลกรัม
- สีชมพูสำหรับใส่อาหารหรือใบเตย
เครื่องปรุงสำหรับเชื่อมเห็ด
- เห็ดหูหนูหั่นฝอย 1 ถ้วยตวง
- เห็ดนางฟ้าหั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็ก 1 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
- น้ำ 1/4 ถ้วยตวง
- ใบเตย 3-4 ใบ
วิธีทำ
1. ล้างแห้วให้สะอาด ปอกเปลือกหั่นเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ แล้วแช่ในน้ำสีชมพูเรื่อ ๆ ประมาณ 15 นาที แล้วตักขึ้นใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
2. นำแห้วมาคลุกแป้งมันที่เตรียมไว้ให้แป้งพอกตัวทับทิมให้ทั่วแล้วนำมาต้มในหม้อที่มีน้ำเดือดพล่านทีละน้อย พอทับทิมสุกจะลอยขึ้นมารีบตักใส่น้ำเย็นจะได้เม็ดทับทิมที่ใสน่ารับประทาน
วิธีทำน้ำเชื่อม
คั้นมะพร้าวให้ได้หัวกะทิประมาณ 4 ถ้วยตวง นำน้ำตาล 2 1/2 ถ้วย และเหลือ
3 ช้อนชา ลงผสมกับน้ำกะทิคนจนน้ำตาลละลาย กรองให้สะอาดแล้วนำไปตั้งไฟพอเริ่มเดือด
จึงยกลง
วิธีเชื่อมเห็ดหูหนูและเห็ดนางฟ้าลอยหน้าทับทิมกรอบ
1. นำเครื่องปรุงทั้งหมดใส่หม้อเคี่ยวให้น้ำตาลเข้ากับเนื้อเห็ด พอแห้งเล็กน้อยก็ยกลงตักไปลอยหน้าทับทิมกรอบ
2. นำเอาทับทิมกรอบน้ำเชือมเห็ดเชื่อมลงผสมกันก่อนจะรับประทานใส่น้ำแข็งทุบละเอียดลงไปเล็กน้อย
________________________________________

** ลูกชิ้นเห็ดหอม **
ส่วนผสม
- ไข่ไก่ 90 ฟอง
- มันแกว 10 กิโลกรัม
- น้ำมันพืช 1 ลิตร
- พริกไทย 100 กรัม
- เกลือป่น 100 กรัม
- น้ำสุก 8 กิโลกรัม
- แป้งหัวบุก 1 1/2 กิโลกรัม
- ยาเห็ดหอมแห้ง 1 1/2 กิโลกรัม
- ซีอิ้วขาว 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. นำยาเห็ดหอมแช่น้ำพอนิ่ม แล้วเข้าเครื่องบดหนีบให้แบน นำไปผัดน้ำมันให้สุก เติมซีอิ้วขาว
2. ปอกมันแกว หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผสมกับเห็ดที่ผัดแล้วใส่เครื่องโม่บดให้ละเอียด 2 ครั้ง
3. ตีไข่ให้เป็นเนื้อเดียวกันรวมส่วนผสมทั้งหมดเข้าเครื่องนวด ใส่เกลือป่นพริกไทย และค่อย ๆ โรยแป้งหัวบุกและน้ำจนกระทั่งหมด และนวดต่อไปประมาณ 40 นาที จนส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จนแป้งข้น
4. นำส่วนผสมที่นวดได้เข้าเครื่องอัดเม็ดลูกชิ้น หรือปั้นด้วยมือเป็นก้อนกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว แล้วนำลงต้มในหม้อต้มไอน้ำที่ควบคุมอุณหภูมิได้ ต้ม 2 ชั่วโมง ที่ 100 องศา
5. เมื่อลูกชิ้นสุก ตักใส่ตะแกรงผึ่งให้เย็นประมาณ 2 ชั่วโมง จึงบรรจุถุงพลาสติก หรือใส่เครื่องแพคสูญญากาศ นำไปแช่เย็นในตู้เย็นเพื่อรอส่งจำหน่าย
หมายเหตุ : อุปกรณ์
- เครื่องบดหนีบ 1 เครื่อง
- เครื่องโม่บด 1 เครื่อง
- เครื่องนวด 1 เครื่อง
- เครื่องอัดเม็ด (ทำลูกชิ้น) 1 เครื่อง
- เครื่องแพคสูญญากาศ 1 เครื่อง
- หม้อนึ่งความดัน 1 เครื่อง
- หม้อต้มลูกชิ้น 1 เครื่อง
________________________________________
** น้ำปลาเห็ด **
ส่วนผสม
- เห็ดสด 3 กิโลกรัม
- เกลือป่น 600 กรัม
วิธีทำ
1. ล้างเห็ดสด ตัดแต่งสิ่งสกปรกออกให้หมด
2. คลุกเกลือป่น ขยำให้เข้ากัน
3. ใส่โอ่งหมัก ปิดฝาให้สนิท ทิ้งไว้นาน 4 เดือน
4. นำส่วนผสมที่หมักมากรองเอาแต่น้ำใสหรือทิ้งไว้ตกตะกอนต่อไปอีก หมั่นนำออกมาตากแดด
5. บรรจุขวด ฆ่าเชื้อ ผลึกขวด

ขอขอบคุณ:ศูนย์รวมสวนเห็ดบ้านอรัญญิก










เทคนิคดูแลเห็ดนางฟ้าในช่วอากาศหนาวเย็น

เห็ดนางฟ้า
อากาศหนาว ดูแลและวางแผนอย่างไรให้มีเห็ดขายได้ทั้งปี
            
ควรเลือกปลูกเห็ดแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
โดยเห็ดที่มีปัญหามากที่สุด คือเห็ดที่ชอบอากาศเย็นมากๆ เช่น เห็ดหอม ซึ่งชอบอุณหภูมิประมาณ ๑๕ องศา เซลเซียส เห็ดนางฟ้าบางสายพันธุ์ก็ชอบความหนาวเย็นมากเช่นกัน แต่น้อยกว่าเห็ดหอม ส่วนเห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดหูหนู และเห็ดที่มีถิ่นกำเนิดในไทย จะชอบอุณหภูมิอบอุ่นธรรมดาของฤดูฝนและฤดูร้อน ส่วนในฤดูหนาวก็จะสร้างดอกเห็ดได้น้อยลงหรือไม่เกิด วิธีการแก้ไขที่เหมาะสม คือ ในฤดูร้อนก็เพาะเห็ดทนร้อน เช่น เห็ดนางรม ฤดูหนาวก็เพาะเห็ดชอบความหนาวเย้ฯ เช่น เห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดหอม ส่วนฤดูฝนก็เพาะเป๋าฮื้อ เห็ดหูหนู เห็ดตีนแรด และอื่นๆ

อุณหภูมิ
อุณหภูมิืกับการผลิตดอกเห็ด เห็ดต่างชนิดกันจะชอบอุณหภูมิในขณะสร้างดอกผิดกัน ดังนั้น จึงควรเลือกปลูกเห็ดแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม โดยเห็ดที่มีปัญหามากที่สุด คือเห็ดที่ชอบอากาศเย็นมากๆ เช่น เห็ดหอม ซึ่งชอบอุณหภูมิประมาณ ๑๕ องศา เซลเซียส เห็ดนางฟ้าบางสายพันธุ์ก็ชอบความหนาวเย็นมากเช่นกัน แต่น้อยกว่าเห็ดหอม ส่วนเห็ดนางรม เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดหูหนู และเห็ดที่มีถิ่นกำเนิดในไทย จะชอบอุณหภูมิอบอุ่นธรรมดาของฤดูฝนและฤดูร้อน ส่วนในฤดูหนาวก็จะสร้างดอกเห็ดได้น้อยลงหรือไม่เกิดดอกเห็ด วิธีการแก้ไขที่เหมาะสม คือ ในฤดูร้อนก็เพาะเห็ดทนร้อน เช่น เห็ดนางรม ฤดูหนาวก็เพาะเห็ดชอบความหนาวเย้ฯ เช่น เห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดหอม ส่วนฤดูฝนก็เพาะเป๋าฮื้อ เห็ดหูหนู เห็ดตีนแรด และอื่นๆ

อุปสรรค
อุปสรรคของการผลิตดอกเห็ด อาจเกิดจากด้านการลงทุน คือการสร้างโรงเรือนในราคาแพง การรักษาความสะอาด การแปรปรวนของอุณหภูมิโรคแมลงและไรศัตรูเห็ด การตลาดเห็ดเป็นต้น ซึ่งแต่ละเห็ดก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยที่แตกต่างกันไป

สูตรเร่งการเจริญเติบโตเพิ่มน้ำหนักดอกเห็ด

เห็ดนางฟ้า
ฮอร์โมนไข่ เป็นฮอร์โมนสำหรับเร่งการเจริญเติบโต และเพิ่มน้ำหนักของดอกเห็ดนางฟ้า

ส่วนประกอบ

1. ไข่ไก่ทั้งฟอง 1 กก.
2. กากน้ำตาล 1 กก.
3. แป้งข้าวหมาก 1 ลูก
4. ยาคูลท์ 1 ขวด

วิธีทำ : ชั่งกากน้ำตาลในถังที่จะใช้หมัก 1 กิโลกรัม ใส่ไข่ไก่ลงไปทั้งฟอง 1 กิโลกรัม จากนั้นใช้ไม้ ที่คนกระทุ้งไข่ให้แตก หรืออาจจะใช้เครื่องปั่นผลไม้ปั่นให้ละเอียดทั้ง เปลือกแล้วเทลงไปในกากน้ำตาลคนให้เข้ากัน หลังจากนั้นเติมยาคูลท์ลงไป 1 ขวด คนอีกครั้งหนึ่งแล้วตามด้วยลูกแป้งข้าว หมากใส่ถุง พลาสติกบี้ให้เป็นผงเสียก่อนจึงใส่ลงไป จากนั้นคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน หาฝาปิด ให้เหลือช่องอากาศแต่น้อยนำไปเก็บในที่ร่มอากาศถ่ายเทสะดวก หมักไว้ 7 วัน ไม่ต้องคน จากนั้นนำมาใช้ได้ ถ้าเก็บฮอร์โมนไข่ไว้นานเกิดจับตัวแข็ง ให้เติมน้ำมะพร้าวอ่อนลงไปคนพอเหลวหากผสม ฮอร์โมนไข่เพื่อฉีดพ่นอาจต้องการกรองเปลือกไข่ออก เพื่อป้องกันหัวฉีดอุดตัน

วิธีใช้ : ผสมฮอร์โมนไข่ 5-10 ซีซี. ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วก้อนเชื้อ ให้เปียกชุ่มโชก ช่วงตอนเย็นแดดอ่อน ทุก 5-7 วัน ดอกเห็ดจะเจริญสมบูรณ์แข็งแรงดี ให้ดอกออกผลรวดเร็วเกินคาด
ที่มา : กลุ่มอาชีพเพาะเห็ดบ้านอ่างหิน จ.ราชบุรี

เทคนิคเพิ่มผลผลิตเห็ดนางฟ้า ช่วงหน้าหนาว

เห็ดนางฟ้า
เทคนิคเพิ่มผลผลิตเห็ดนางฟ้าในช่วงหน้าหนาว
  
                ขณะที่อากาศค่อนข้างร้อนการผลิตเห็ดขอนขาว และเห็ดกระด้างจะได้ผลดีกว่าเห็ดภูฐาน  ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในที่หนาวเย็นกว่า ประเทศไทย ส่วนฤดูร้อนและฤดูฝน การผลิตเห็ดนางรมขาวหรือนางรมฮังการีจะดีกว่าเห็ดภูฐาน  ที่บางครั้งแทบไม่ เกิดดอกเห็ดเลย ดังนั้นการวางแผนการผลิตโดยทำตารางกำหนดงาน หรือปฏิทินการผลิตเห็ดแต่ละชนิด ให้สอดคล้องกับฤดูกาลจึงเป็นเรื่องสำคัญไม่ น้อยไปกว่าผลิตเห็ดอะไรขายให้ใคร
               
                เห็ดภูฐานมีชื่อเต็มๆ ว่าเห็ดนางฟ้าภูฐาน มี 2 สายพันธุ์คือดำกับขาว(หรือครีม) เพาะโดยใช้ขี้เลื่อยแบบเดียวกับการเพาะเห็ดถุงทั่วไป เช่น เห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดเป๋าฮื้อ เห็ดยานากิ เห็ดกระด้าง เห็ดขอน เห็ดหอม ฯลฯ เกิดดอกเห็ดได้ดีในเดือนพฤศจิกายน  ธันวาคม มกราคม ถ้าปีใดหนาวเร็วก็นับเดือนตุลาคมด้วย    และปีใดหมดหนาวช้าก็อาจนับเดือนกุมภาพันธ์ด้วย ภาคเหนือและอีสานอากาศเย็นกว่าจึงผลิตเห็ดได้มากกว่า แต่กรุงเทพฯ เป็นตลาดใหญ่กว่า รับสินค้าได้มากกว่า เมื่อเข้าเดือนตุลาคม การผลิตถุงเชื้อเห็ดก็ควรลดเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้า เห็ดภูฐานขาว ให้น้อยลงแล้วเพิ่มการผลิตเห็ดนางฟ้าภูฐานดำเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามความหนาวในภาคกลางไว้ใจไม่ได้ จึงไม่ควรทุ่มเทผลิตแต่นางฟ้าภูฐานดำทั้ง 100% บางปีมีร้อนสลับหลายวันที่เห็ดไม่เกิดดอก แต่ถ้าเราผลิตถุงเชื้อเห็ดนางรม เห็ดนางฟ้าภูฐานขาวได้สัก 20-30% เห็ดจำนวนนี้จะเกิดดอกให้พอเก็บขายได้เงินบ้าง แม้จะร้อนจนเห็ดนางฟ้าภูฐานดำ ไม่สร้างดอกเห็ดก็ตาม

ที่มา : ชมรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร

สูตรการทำก้อนเชื้อเห็ดของฟาร์มเห็ดดอนปรู

สูตรอาหารขี้เลื่อย สำหรับเห็ดถุงที่ประหยัดและผลผลิตดี

เห็ดนางฟ้า            
แต่เดิมการทำเห็ดถุงโดยใช้ขี้เลื่อยเป็นวัตถุดิบ จะมีการเติมอาหารเสริมสำคัญคือ รำละเอียด 6% ต่อมามีการเติมหินปูนบด, ยิปซัม, ดีเกลือ, บ้างเติมกากถั่วป่น, เศษพืชป่นที่มีมากในพื้นที่ น้ำตาลทรายแดง, กากน้ำตาล น้ำหมักพืช ฮอร์โมนพืช ฯลฯ ใครว่าใช้อะไรดีก็หามาเติม จนเกิดปัญหาต้นทุนสูง มีกลิ่นดึงดูดแมลงหวี่เห็ด และมด แม้แต่ไร เมื่อสัตว์เหล่านี้มาที่ถุงเห็ดก็ทำให้ถุงเห็ดติดเชื้อปนได้ง่าย มีข้อมูลในวารสารเห็ดไทยเรื่องการใช้ขี้เลื่อยเก่ามาเป็นส่วนผสมกับขี้ เลื่อยใหม่แล้วได้ผลดี ผู้วิจัยอ้างว่าในขี้เลื่อยเก่ามีบักเตรี บาซิลลัส ซับติลิส เชื้อนี้สปอร์ไม่ตายเมื่อพาสเจอร์ไรซ์ แต่กลับช่วยกระตุ้นการเจริญของเส้นใยเห็ด ในประเทศไทยได้นำเชื้อบักเตรี บาซิลลัส ซับติลิส สายพันธุ์พลายแก้ว มาหมักขยายจำนวนแล้วผสมในขี้เลื่อยก่อนทำถุง ซึ่งก็แสดงผลที่ดีมากและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ

ฟาร์มเห็ดดอนปรูได้ปรับสูตรลงเหลือเพียง

-ขี้เลื่อย 100 กก.
-แร่ม้อนท์ 3 กก. (หรือภูไมท์ซัลเฟต 5 กก.)
-รำละเอียด 6 กก. อื่นๆ ตัดออกหมด แต่
-เติมน้ำหมักพลายแก้วเพื่อป้องกันรา
-และน้ำหมักไมโตฟากัส เพื่อป้องกันกำจัดไร
              
              ถ้าจะผลิตถุงเห็ดส่งลูกค้าที่มีปัญหาแมลงหวี่มากก็จะเติมน้ำหมักบีทีด้วย วิธีนี้ประหยัดค่าใช้จ่าย และลดกลิ่นดึงดูดศัตรูเห็ดด้วย ในกรณีของการใช้น้ำหมักและยิปซัมไปได้ทั้งหมด แต่แร่ม้อนท์ให้แร่ธาตุจำเป็นต่างๆ แก่เห็ดไดดีทั้งธาตุรอง และธาตุเสริม เมื่อนำถุงเชื้อมาผลิตดอกเห็ดก็ได้ดอกเห็ดใหญ่ สมบูรณ์ น้ำหนักดี

ปัญหา+วิธีแก้ไข ในการเพาะเห็ดนางรม - เห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า

ในการเพาะเห็ดนางรม – เห็ดนางฟ้า ก็มีปัญหาเช่นเดียวกับการเพาะเห็ดชนิดอื่นๆ ซึ่งพอจะจำแนกได้ดังนี้

1. เส้นใยไม่เจริญลงในถุงขี้เลื่อย หลังจากที่ได้ใส่เชื้อเห็ดลงไปสาเหตุเกิดจาก
- หัวเชื้อเห็ดไม่มีคุณภาพหรือหมดอายุ
- ปุ๋ยหมักมีสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อเห็ด ตลอดจนมีความเป็นกรดหรือด่างมากเกินไป
- ปุ๋ยหมักแฉะเกินไปและเกิดจุลินทรีย์อื่นๆ ขึ้นปะปน

2. เส้นใยเดินบางมาก ในบางครั้งหลังจากบ่มเชื้อแล้วเส้นใยเจริญทั่วก้อนแต่เดินบางมาก ทำให้เกิดดอกเห็ดได้น้อย อาจเกิดจาก
- การขาดอาหารเสริมอาหารน้อยเกินไป
- การนึ่งฆ่าเชื้อไม่หมดยังมีเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆ เจริญอยู่
- ใช้วัสดุเพาะที่ไม่เหมาะกับเห็ดชนิดนี้

3. เส้นใยเดินเพียงครึ่งถุง แล้วไม่เดินต่อไปอีก
- ปุ๋ยหมักก้นถุงชื้นหรือเปียกแฉะเกินไป

4. ออกดอกช้าเกิดจาก
- นำก้อนเชื้อไปเปิดดอกในขณะที่เส้นใยยังไม่รัดตัว
- การถ่ายเทอากาศไม่ดี
- เชื้อเห็ดอ่อนเกินไป จากการต่อเชื้อมาแล้วหลายครั้ง
- ความชื้นไม่เพียงพอ

5. ดอกเห็ดเล็กไม่โตและให้ผลผลิตต่ำ
- เชื้ออ่อนแอ ต้องคัดหรือเลี้ยงเนื้อเยื่อใหม่
- อาหารภายในถุงไม่เพียงพอเพราะดอกเห็ดเกิดเป็นดอกเล็กๆ ขึ้นจำนวนมาก

6. เกิดเป็นดอกช้าและไม่เจริญเติบโต มีอาการเหี่ยวเฉาตาย
- เชื้อจุลินทรีย์เข้าทำลายขณะเปิดถุงเนื่องจากโรงเรือนสกปรก
- มีน้ำขังในถุงมากเกินไป

เทคนิคเพิ่มผลผลิตเห็ดนางรม-นางฟ้า

เห็ดนางฟ้า
เพิ่มผลผลิตเห็ดนางรา - นางฟ้า ทำก้อนเชื้ออย่างไรให้ได้ผลผลิตสูงฟาร์มของครูยงค์-บงกช มีเทคนิคและวิธีการเพิ่มผลผลิตเห็ดนางรม-นางฟ้า ดังนี้
ทางฟาร์มจะใช้ ผลิตภัณฑ์โวลกานิค พลัส แบบผง และสารละลายแร่หินภูเขาไฟ Si-Plus ร่วมกับเทคนิคตามธรรมชาติ โดยสารดังกล่าวจะช่วยยืดอายุก้อนเชื้อเห็ด และร่นระยะเวลาการออกดอกของเห็ด จากเดิมที่จะออกดอกทุกๆ 15 วัน ก็จะออกดอกทุกๆ 7 วัน

เพิ่มผลผลิตโดยใช้ผลิตภัณฑ์ โวลกานิคพลัสในสูตรอาหารเลี้ยงเชื้อ

- ขี้เลื่อยแห้ง 100 กิโลกรัม
- รำละเอียด 10 กิโลกรัม
- ใบกระถินป่น 3 กิโลกรัม
- ข้าวโพดป่นหรือแป้งข้าวเหนียวผสมเอ็มไซม์ 1 กิโลกรัม
- ส่าเหล้า 1 กิโลกรัม หินฟอสเฟต 1 กิโลกรัม
- ปูนโดโลไมต์ 1 กิโลกรัม ดีเกลือ 2008 ครึ่งกิโลกรัม
- สารเอสไอพลัส 60 CC ผสมในน้ำเปล่า 20 ลิตร
- ผลิตภัณฑ์โวลกานิคพลัส แบบผงครึ่งกิโลกรัม

**สิ่งสำคัญของการทำก้อนเชื้อเห็ดก็คือ หลังจากคลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันแล้ว ให้หมักกองทิ้งไว้ 1 วัน กลับกอง 2 ครั้ง ก่อนบรรจุลงถุง เพื่อให้ก๊าซแอมโมเนีย เจือจางลง ป้องกันดอกเห็ดบิดเบี้ยว จากการสะสมของก๊าซแอมโมเนียทีมีมากจนเกินไป

อ้างอิงจาก:ฟาร์มครูยงค์-บงกช


ธาตุอาหารหลักของเห็ด

              ธาตุอาหารหลัก ๆ ที่เห็ดต้องการ คือ แหล่งอาหาร  คาร์บอนและไนโตรเจน   จึง จำเป็นต้องใช้จุลินทรีย์บางประเภท เช่น รา และแอคติโนมัยสิตในการช่วยย่อยให้วัสดุเพาะมีโมเลกุลเล็กลงจนเห็ดสามารถนำไป ใช้เป็นอาหารได้  ซึ่งนอกเหนือจากการใช้จุลินทรีย์ EM แล้ว เกษตรกรผู้เพาะเห็ดสามารถใช้น้ำหมักชีวภาพที่มีอยู่ทั่วไปได้

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ฟาร์มของครูยงค์-บงกช

การเพาะเห็ดนางฟ้าในอ่างซีเมนต์แบบประหยัด

เห็ดนางฟ้า
การเพาะเห็ดนางฟ้า-นางรมในท่อซีเมนต์ แบบประหยัด

                   ในการเพาะเห็ดนางฟ้า หรือเห็ดนางรมเพื่อเอาไว้บริโภคในครัวเรือน เราสามารถเพาะเห็ดนางฟ้า – นางรมแบบไม่ต้องสร้างโรงเรือนได้ โดยมีแค่ท่อซีเมนต์ หรืออ่างปูน มีขั้นตอน ดังนี้ครับ

-ให้ไปหาซื้อก้อนเห็ดที่เชื้อเดินเต็มถุงแล้ว (สังเกตเส้นใยจะเดินเต็มก้อนเป็นสีขาว หรือถ้าเป็นสีน้ำตาลอ่อนยิ่งดี) เปิดจุกคอขวดแคะเอาเมล็ดข้าวฟ่างออกให้หมด

-นำตะกร้า (แล้วแต่ดัดแปลง) วางคว่ำลงในอ่างปูนหรือท่อซีเมนต์ เอาน้ำใส่ พอประมาณไม่ท่วมตะกร้า (ประมาณเศษ 1 ส่วน 3 ของตะกร้า)
-เอาก้อนเชื้อเห็ดวางลงบนตะกร้า
-จากนั้น นำเอาไม้วางพาดขอบอ่างปูนไว้ 
-นำแผ่นกระเบื้องวางลงบนไม้เพื่อบังแสงแดด

                   ให้ทำการรดน้ำเห็ดทุกครั้ง วันละ 1- 2 ครั้ง แล้วแต่สภาพอากาศ แต่ควรให้ชุ่มชื้นเสมอ ประมาณ 1สัปดาห์เห็ดนางฟ้าก็จะออกดอกให้ได้เก็บกินครับ  แนะนำให้ใช้ฮอร์โมนกระตุ้นดอกเห็ดที่เป็นน้ำหมักฉีดพ่นทุกๆ 3 วันเพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตให้มากขึ้น..สูตรน้ำหมักศึกษาได้จากบทความเก่าครับ

สูตรฮอร์โมนกระตุ้นดอกเห็ด


เห็ดนางฟ้า
การกระตุ้นเห็ดนางฟ้าภูฐานด้วยฮอร์โมน

การทำฮอร์โมนเร่งดอกเห็ด

- ใช้นมสด (ตราเหยี่ยว) อัตราส่วน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำ ครึ่งลิตร ( 500 ซี.ซี)  
           
           ผสมนมสดและน้ำตาลทรายกวนให้เข้ากัน เติมน้ำครึ่งลิตร ใส่กระบอกน้ำฉีดพ่นที่ปากถุงเห็ด ฉีด 20 วัน/ครั้ง หรือดูว่าผลผลิตเริ่มลดลง เช่น ดอกเล็ก ดอกผอม ใช้สลับหรือใช้ร่วมกับการใช้น้ำหมักชีวภาพ ร่วมด้วยจะทำให้ตีนเห็ดโต ดอกโตและอวบขึ้น ยืดอายุการเก็บเห็ดเพิ่ม

การทำน้ำหมักชีวภาพเพื่อหมักเศษตีนเห็ด

- น้ำ 100 ลิตร
- อีเอ็ม/น้ำหมักชีวิภาพ 1 ลิตร
- กากน้ำตาล 2 ลิตรครึ่ง
          นำทั้ง 3 ส่วนผสมเข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว 15 วัน กวนทุกวันปิดปากถังให้สนิท หลังจากนั้นเติมน้ำลงไปทุกวัน วันละ 5 ลิตรจนครบ 200 ลิตร นำเศษเห็ดที่เหลือ เช่น ตีนเห็ด เศษเห็ด ไปหมักในถังน้ำหมักชีวภาพ

วิธีใช้
ใช้น้ำหมักชีวภาพ 10 ลิตร ผสมน้ำ 10 ลิตร ( หากเข้มข้นเกินให้ปรับลดน้ำปุ๋ยหมักชีวภาพได้ตามความเหมาะสม ) ฉีด 2-3 วัน/ครั้ง ใส่กระบอกฉีดพ่นฝอยบริเวณปากถุง ไม่ควรฉีดใกล้ปากถุงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดเชื้อราชนิดอื่นตามมาได้

น้ำหมักฮอร์โมนจากตีนเห็ด 

ฮอร์โมนเร่งให้ออกดอกเร็ว ตีนเห็ด/เศษเห็ด1กก. กากน้ำตาล1ลิตร พด.1 =1ซอง อีเอ็ม1ลิตร น้ำ20ลิตร หมักในถังปิดฝา15วัน ใช้ฉีดพ่นได้เลย
      
วัสดุ และอุปกรณ์
1. ตีนเห็ดและเศษเห็ด 3 กิโลกรัม
2. กากน้ำตาล 1 ลิตร
3. EM 1 ลิตร
4. พด.1(ขอรับฟรีได้ที่กรมพัฒนาที่ดิน) 1 ซอง
5. น้ำสะอาด 20 ลิตร
6. ถังหมักพลาสติกที่มีฝาปิด 1 ถัง

วิธีการ : นำส่วนผสมทั้งหมดนี้นำมาผสมกันในถังหมักพลาสติกที่มีฝาปิดแล้วทำการหมักไว้ 15 วัน คนทุก เช้า-เย็น ทุกวัน ก็สามารถนำมาฉีดพ่นเพื่อใช้บำรุงดอกเห็ดได้เลยโดยไม่ต้องผสมน้ำเพิ่มจะช่วย บำรุงก้อนเชื้อเห็ดทำให้เห็ดออกดอกได้เร็ว ดอกเห็ดมีขนาดใหญ่น้ำหนักดีและสามารถช่วยทำให้เห็ดออกดอกได้หลายรุ่นเพิ่ม ขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คุณเจนจิรา ถิ่นทุมทอง 133 หมู่ 17 บ.สันโค้งใหม่ ต.ห้วยสัก อ.เมือง จ.เชียงราย
ที่มา : ศูนย์ทางด่วนข้อมูลทางการเกษตร*1677

จัดวางก้อนเชื้อเห็ดเพิ่มผลผลิตเท่าตัว

เห็ดนางฟ้า
จัดวางก้อนเชื้อเห็ดอย่างไร ให้ได้ผลผลิตเพิ่มเป็นเท่าตัว

สิ่งหนึ่งที่ถือว่าสำคัญในการเพาะเห็ด ก็คือการจัดวางก้อนเชื้อเห็ดครับ

การจัดวางก้อนเห็ดด้วยการแขวนเชือกในโรงเปิดดอก 
จะทำให้จัดวางก้อนเชื้อได้มากกว่าปกติ(ปกติจะจัดวางได้ 60 ก้อน ) กาจัดวางในลักษณะนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเพิ่มผลผลิตให้สูงขึ้นได้ด้วย จะทำให้เห็ดออกดอกได้ดีขึ้น เพราะก้อนเชื้อไม่กดทับ ทั้งยังง่ายต่อการกำจัดก้อนที่เป็นโรคหรือแมลง(ดึงก้อนเชื้อที่เป็นโรคออกมา จากชั้นวางได้ง่าย)

การเปิดจุกออกให้ดอกเห็ดออกที่ปากถุง
ให้วางถุงในแนวนอนหรือแนวตั้งก็ได้ พ่นละอองน้ำเป็นฝอยละเอียดเหนือบริเวณปากถุง เห็ดจะเกิดขึ้นแล้วโผล่ออกมาทางปากถุง ซึ่งวิธีการนี้สามารถผลิตเห็ดได้หลายรุ่น หรือจนหมดอาหารเห็ด

การกรีดให้ดอกเห็ดออกข้างถุง
ใช้มีดคมๆหรือมีดคัตเตอร์กรีดเป็นแนวลงมาตรงๆ หรือเฉียงๆ หรือกากบาทเป็นจุดเล็ก ๆ โดยถุงที่วางทางนอนจะกรีดด้านก้นถุง เพื่อเป็นจุดให้เกิดดอกเห็ดก็ได้

เทคนิคกระตุ้นเห็ดนางฟ้า นางรมให้ออกดอกพร้อมกัน

เห็ดนางฟ้า
เทคนิคอย่างง่ายๆ สำหรับคนเพาะเห็ดนางฟ้า

กระตุ้นเห็ดนางฟ้า นางรมให้ออกดอกพร้อมกัน 
จากการที่ผมได้โทรปรึกษานักวิชาการหลายท่าน วิธีการนี้ใช้ได้กับเห็ด ตระกูลนางฟ้า-นางรมเท่านั้นนะครับ   และควรใช้วิธีนี้หลังจากเก็บเห็ดรุ่นแรกแล้ว  (ซึ่งเห็ดรุ่นแรกมักจะออกดอกพร้อมกันอยู่แล้ว)
ถ้าต้องการให้เห็ดทะยอยออกดอกทุกวัน   ให้ใช้วิธีรดน้ำให้ความชื้นสม่ำเสมอทุกวัน ก้อนเห็ดจะรัดตัว และเมื่อเชื้อเห็ดพร้อมก็จะทะยอยออกดอกให้ได้เก็บขายทุกวัน อาจจะมากบ้าง หรือน้อยบ้าง
ถ้าหากอยากให้ออกดอกเป็นชุด   หลังจากเก็บดอกเห็ดชุดแรกเสร็จแล้ว ให้จัดการทำความสะอาดหน้าก้อน หากพบรากเห็ด หรือโคนเห็ดถูกดึงออกไม่หมดติดค้างอยู่ที่คอขวด ให้ใช้ช้อนแคะออกให้หมด จากนั้นงดให้นำเห็ดนางรม-นางฟ้า เป็นเวลา 4-7 วัน หากในระยะ 4-5 วันแรกมีเห็ดแทงดอกก็ให้แคะทิ้ง หรือปล่อยให้ดอกเห็ดแห้ง ห้ามใจอ่อนรดน้ำเด็ดขาดนะครับ  เมื่อถึงวันที่ 6-7 หรือหากเป็นพันธุ์หนัก วันที่ 9-10 ก็จะเกิดตุ่มดอกเห็ดชุดใหม่ทะยอยเกิดขึ้นพร้อมๆกัน  ให้เริ่มรดนำให้ความชื้น  และอาจกระตุ้นให้ความสดชื่นโดยการใช้เครื่องดื่มน้ำหมักชีวภาพ(แนะนำให้ใช้ฮอร์โมนไข่ 5 ซีซี) ผสมนำ 20 ลิตร ฉีดพ่น หลังให้นำครั้งแรก เห็ดจะออกดอกใด้สม่ำเสมอยิ่งขึ้น (แต่ห้ามใช้ปุ๋ยเคมีนะครับ เห็ดจะออกดอกครั้งเดียวแล้วหายไปเลยเพราะเสียกำลัง) เท่านี้เห็ดนางฟ้า -นางรมของท่านก็จะออกดอกพร้อมกันเป็นชุดๆแล้ว  เห็ดนางรมสีขาว ออกดอกเป็นชุดที่ 2 พร้อมกัน โดยวิธีการงดน้ำ (สังเกตที่พื้นไม่ชื้นมาก)
          การให้น้ำควรให้น้ำที่ก้นถุงระวัง อย่าให้น้ำเข้าขังตรงคอถุงเพราะจะทำให้เกิดราดำได้  และถ้าให้น้ำที่ด้านหน้าหรือดอก ก็ควรให้น้ำแบบพ่นโดยใช้หัวฉีดพ่นเป็นละอองฝอย เพื่อป้องกันไม่น้ำเข้าไปขังหน้าก้อน และป้องกันเชื้อราได้อีกด้วยครับ

ลักษณะสำคัญของเห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า
เห็ด จัดเป็นพืชจำพวกเชื้อรา (Fungi) ในอดีตคนมักจะมองและคิดถึงเห็ดในลักษณะที่ไม่ปลอดภัย ลึกลับและน่ากลัวเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ ไม่มีคลอโรฟีล สังเคราะห์แสงเองไม่ได้ อาศัยอาหารจากอินทรีย์วัตถุเช่นซากพืช หรือสิ่งมีชีวิตอื่น การเจริญเติบโตของเห็ดเริ่มจากสปอร์ (Spore) ที่อยู่บริเวณครีบดอกปลิวไปตกบนบริเวณที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสม สปอร์ก็จะเจริญเป็นเส้นใย เส้นใยเหล่านี้จะรวมตัวกันมากขึ้นและเจริญพัฒนาเป็นกลุ่มก้อน เกิดเป็นดอกเห็ดบนพื้นดิน บนต้นไม้ ขอนไม้ ซากพืช มูลสัตว์ ฯลฯ

เห็ดนางฟ้า..มีประโยชน์อย่างไร

เห็ดนางฟ้า
    
เห็ดนางฟ้า

ชื่อเรียกทั่วไป : เห็ดนางฟ้า , เห็ดแขก 
ชื่อสามัญ : Sarjor-caju Mushroom 
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pleurotus sajor-caju(Fr.) Sing.
    

ถิ่นกำเนิดของเห็ดนางฟ้า จะอยู่แถบเทือกเขาหิมาลัย ประเทศอินเดีย 
สรรพคุณทางยา : ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ลดไขมันในเส้นเลือด 
การนำไปใช้ประโยชน์ : ทำแหนมเห็ด , เห็ดชุบแป้งทอด , ต้มยำเห็ด ฯลฯ 

คุณค่าทางอาหารของเห็ดนางฟ้า (100กรัม)
ให้พลังงาน 35 กิโลแคลอรี่ (โปรตีน2.3กรัม , ไขมัน 0.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต 5.7 กรัม)
    
ข้อดีของเห็ดนางฟ้า  
มีรสชาติดี รสชาติอร่อย 
ถ้านำไปปรุงอาหารจะมีกลิ่นหอมน่ากินมาก 
สามารถเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นได้นาน 
สามารถเก็บรักษาโดยการตากแห้งไว้ เมื่อจะนำมาปรุงอาหารก็เพียงนำเห็ดนางฟ้าไปแช่น้ำ เห็ดก็จะคืนรูปเอง
    
ลักษณะโดยทั่วไปของเห็ดนางฟ้า 
เห็ดนางฟ้ามักจะพบตามธรรมชาติบริเวณตอไม้เนื้ออ่อนที่กำลังผุ ในแถบเมืองแจมมู บริเวณเชิงเขาหิมาลัย มีรูปร่างลักษณะคล้ายคลึงกับเห็ดนางรม และเห็ดเป๋าฮื้อ แต่จะมีสีอ่อนกว่า และมีครีบอยู่ชิดกันมากกว่า ด้านบนของดอกจะมีสีนวลๆ ถึงสีน้ำตาลอ่อน ดอกเห็ดนางฟ้าจะมีขนาดตั้งแต่ 5-14 เซ็นติเมตร และจะมีน้ำหนักอยู่ระหว่าง 30-120 กรัม  และนอกจากนี้ยังมีเห็ดนางฟ้าอีกสายพันธุ์หนึ่ง คือ เห็ดนางฟ้าภูฐาน ที่เรียกชื่อเช่นนี้เพราะเป็นเห็ดที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศภูฐาน ซื่งก็จะสามารถแยกออกได้อีกหลายสายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ก็จะชอบฤดูกาลที่ต่างกัน (บางพันธุ์ออกได้ดีในฤดูร้อน บ้างพันธุ์ออกได้ดีในฤดูหนาว)