หญ้า 3 ชนิด ที่นำมาเพาะเห็ดได้

การเพาะเห็ด
 
หญ้า 3 ชนิด ที่นำมาเพาะเห็ดได้

ปัจจุบัน ชุมชนท้องถิ่นบางแห่งในเขตภาคเหนือ  โดยเฉพาะเขตภูเขา และชุมชนตามแนวชายแดน มักมีการประกอบอาชีพไม่เป็นหลักแหล่ง และมีการทำเกษตรกรรมที่ไม่ยั่งยืน เช่น การทำไร่เลื่อนลอย การปลูกพืชเสพติด หรือแม้กระทั่งการตัดไม้ทำลายป่า ก่อให้เกิดผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม  การไม่ได้รับการศึกษาและการขาดการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพที่เหมาะสมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นสาเหตุหลักของปัญหาดังกล่าว  การสร้างอาชีพโดยการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาปรับใช้ให้เกิดความสอดคล้องกับชุมชนนับเป็นทางเลือกที่นักวิชาการ นักวิจัย ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ต้องให้ความสนใจ  ไบโอเทคได้เล็งเห็นความสำคัญในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาแบบยั่งยืนในพื้นที่สูงและด้านนิเวศวิทยาของชุมชน ด้วยการพัฒนาอาชีพชุมชนในชนบทและการใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ จึงได้สนับสนุนทุนโครงการวิจัย “ศึกษาการใช้วัชพืชในเขตพื้นที่ไร่เลื่อนลอยเพื่อเป็นวัสดุเพาะเห็ดชนิดต่างๆ”  โดยมีนางสาวนันทินี  ศรีจุมปา  นักวิชาการเกษตร  จากศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย จังหวัดเชียงราย เป็นหัวหน้าโครงการ โครงการวิจัยนี้ ได้ใช้โจทย์ของการส่งเสริมการประกอบอาชีพเพาะเห็ดในชุมชนหมู่บ้านปางสา อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงใหม่ นำไปสู่อาชีพที่ยั่งยืนบนพื้นฐานของการใช้วัสดุในท้องถิ่นให้เป็นประโยชน์ โดยหวังผลสำเร็จของโครงการให้เป็นกรณีศึกษาสำหรับพื้นที่ใกล้เคียงและพื้นที่อื่นที่มีลักษณะภูมิประเทศและเงื่อนไขใกล้เคียงกัน

ในขั้นต้นผู้วิจัยได้ศึกษาวัชพืชในท้องถิ่น และคัดเลือกวัชพืชที่เหมาะสมมาทดลองเพาะเห็ดแทนขี้เลื่อยไม้ยางพาราซึ่งเป็นวัสดุหลักในการทำก้อนเชื้อเพาะเห็ดที่มีแนวโน้มของราคาสูงขึ้นเนื่องจากต้นทุนด้านการขนส่ง ในขณะเดียวกันผู้วิจัยได้ประดิษฐ์เครื่องต้นแบบในการบดย่อยวัชพืชที่ได้ เนื่องจากลำต้นของวัชพืชมีลักษณะแข็ง ยากต่อการตัด หรือสับ ต่อมาจึงนำวัชพืชที่คัดเลือกแล้วมาบดย่อยโดยเครื่องต้นแบบที่พัฒนาได้ และนำวัชพืชมาผสมกันในอัตราส่วนต่างๆ และนำมาหมัก หลังจากนั้นจึงทดลองเพาะเลี้ยงเห็ดตระกูลนางรมเพื่อให้ได้ผลผลิตที่เหมาะสม

จากการวิจัย  สามารถนำวัชพืชในท้องถิ่นจำนวน 3 ชนิด คือ หญ้าแขม หญ้าเลา และหญ้าก๋ง มาใช้เป็นวัสดุเพาะเห็ดตระกูลนางรม คือ เห็ดนางรมฮังการี  และเห็ดนางฟ้าภูฏาน และพบว่าผลผลิตเห็ดที่ได้สูงกว่าการใช้ขี้เลื่อยไม้ยางพารา ซึ่งแสดงว่าวัชพืชดังกล่าวมีศักยภาพเพียงพอที่จะใช้เป็นวัสดุเพาะเห็ดทดแทนขี้เลื่อยได้ นอกจากนี้ เมื่อนำเห็ดทั้งสองชนิดที่เพาะจากวัชพืชมาวิเคราะห์ปริมาณโปรตีนพบว่ามีปริมาณมากกว่าเห็ดที่เพาะจากขี้เลื่อยไม้ยางพารา โครงการนี้ไม่เฉพาะเพียงทีมผู้วิจัยเท่านั้นที่ดำเนินงานวิจัย ประชากรในชุมชนยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจและเลือกชนิดของวัชพืช ตลอดจนการทดลองเพาะเห็ด นับเป็นโครงการวิจัยหนึ่งที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชนในด้านบวก  ในอนาคตเมื่อมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอย่างทั่วถึง ชุมชนจะสามารถประกอบอาชีพที่ยั่งยืนทดแทนการทำไร่เลื่อนลอย เท่ากับว่าเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่ง

ที่มา:ศูนย์ไบโอเทค

อาหารเสริมเพิ่มผลผลิตเห็ด


เพิ่มผลผลิตเห็ด
 
เพิ่มผลผลิตเห็ดด้วยอาหารเสริม

จะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันได้มีการทดลองเพิ่มผลผลิตเห็ดด้วยกรรมวิธีต่างๆมากมายครับ แต่ที่นิยมกันมากที่สุด และเป็นวิธีที่ผิดอย่างมาก ก็คือ การใช้ปุ๋ยยูเรีย ในการเร่งการเกิดดอกของเห็ด จริงอยู่ว่าการใช้ปุ๋ยยูเรีย จะช่วยทำให้ดอกเห็ดน้ำหนักดีทันตาเห็น แต่ผลเสียที่ตามมาก็คือ ก้อนเห็ดจะโทรมเร็วอย่างรวดเร็ว และมีการสะสมเชื้อโรคและแมลงต่างๆได้ง่าย และที่สำคัญที่สุด ดอกเห็ดจะช้ำและเน่าเสียง่าย เห็ดมีรสขม มีกลิ่นบูดเปรี้ยว แถมยังราคาตกอีกด้วย

จริงๆแล้วการที่เราจะเพิ่มผลผลิตเห็ดได้นั้น ต้องพิจารณาตั้งแต่ อาหารเสริมที่จะใส่เข้าไปในการทำก้อนเชื้อ หรือก้อนอาหารเห็ด โดยต้องศึกษารายละเอียดให้รู้ว่า แท้จริงแล้วเห็ดต้องการธาตุอาหารมากกว่า 16 ชนิดขึ้นไป การใช้เพียงรำละเอียด ปูนขาว และดีเกลือเท่านั้น จะไม่ทำให้ได้ผลผลิตสูงเท่าที่ควร เกษตรกรผู้เพาะเห็ดควรเติมธาตุอาหารอย่างอื่น เช่น รำข้าวสาลี มอลต์ข้าวโพด ใบกระถิน ส่าเหล้า แป้งเอ็นไซม์ หินฟอสเฟต ปูนโดโลไมท์ เข้าไปด้วย จึงจะทำให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นได้ คุณภาพของดอกเห็ดก็จะดี ไม่บานหรือเน่าง่าย ส่วนการที่จะเพิ่มผลผลิตดอกเห็ด หรือยืดอายุก้อนเชื้อให้นานขึ้นนั้น ไม่ควรใช้ปุ๋ยยูเรีย ที่เป็นสารเคมีโดยเด็ดขาด ควรใช้ธาตุอาหารเสริมอินทรีย์แทน เหตุผลก็เพราะว่า ในการเพาะเห็ดไม่สามารถใช้สารเคมีได้) ตัวอย่างอาหารเสริมอินทรีย์ เช่น สารสกัดจากเปลือกไม้ หรืออาจใช้น้ำหมักชีวภาพฉีดพ่นเป็นประจำ หรือใช้แร่ธาตุกระตุ้นดอกเห็ดที่มีสารอาหารที่เห็ดต้องการมากมาย (แร่ธาตุกระตุ้นดอกเห็ด สามารถสั่งซื้อได้จากชมรมเกษตรปลอดสารพิษ)

3 เมนูเด็ดเห็ดนางฟ้า

เห็ดนางฟ้า

3 เมนูเด็ดเห็ดนางฟ้า

1.แหนมเห็ดนางฟ้า

ส่วนผสมสำหรับเมนู แหนมเห็ดนางฟ้า

1. เห็ดนางฟ้า เห็ดนางรมหรือเห็ดฮังการี 2 กิโลกรัม
2. ข้าวเหนียวนึ่งสุก 1/2 ถ้วย
3. กระเทียม 50 กรัม
4. เกลือไอโอดีน 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ แหนมเห็ดนางฟ้า

1.ให้เลือกเห็ดนางฟ้าที่กำลังจะบานแต่อย่าให้บานเต็มที่ ล้างเห็ดนางฟ้าให้สะอาด เอาส่วนที่เป็นโคนเห็ดออกให้เหลือแต่ดอกเห็ด เสร็จแล้วฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำไปนึ่ง 3 นาที เอามาผึ่งให้เย็นแล้วคั้นน้ำออก
2.นำมาผสมกับเครื่องปรุงที่เหลือ ผสมทุกอย่างเคล้าให้เข้ากัน
3.นำไปนึ่งอีก 1 - 2 นาที แล้วจึงนำมาห่อ (หากต้องการให้เปรี้ยวเร็ว ก็ให้เพิ่มข้าวเหนียวนึ่งเข้าไปในส่วนผสมอีก)

2.เห็ดนางฟ้าสามรส

ส่วนผสมสำหรับทำเห็ดนางฟ้าสามรส

1.เห็ดนางฟ้า 2 กิโลกรัม
2.ซีอิ้วขาว 1/2ถ้วย
3.น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
4.เกลืออีกเล็กน้อย

วิธีทำเห็ดนางฟ้าสามรส

1. เห็ดนางฟ้าสด 2 กิโลกรัม ฉีกเป็นเส้นฝอย ขนาด 1 เซนติเมตร ล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำไปผึ่งในที่รมจนกว่าจะสะเด็ดน้ำ

2. ผสมซีอิ้วขาว 1/2ถ้วย น้ำตาลทราย 2 ถ้วย และเกลืออีกเล็กน้อย ลงในกะละมังที่เตรียมไว้ คลุกเคล้าให้เข้ากัน

3. นำเห็ดนางฟ้าที่นำมาผึ่งไว้ลงในกะละมัง ครั้งละ 1 กำมือ เคล้าให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน จากนั้นใส่เห็ดนางฟ้าลงในถุงตาข่ายที่ทำจากผ้าบีบน้ำออก หากบีบน้ำแรงเกินไป จะทำให้น้ำออกหมด ไม่เหลือรสชาติของเห็ดและเครื่องปรุง แต่ถ้าหากออกแรงบีบน้อยเกินไปเห็ดจะเปียก เวลาทอดจะสุกช้าและนิ่มไม่น่ารับประทาน

4. ใส่เห็ดลงในถาด หรือกระด้งพักไว้ ตั้งกระทะใช้ไฟแรงจัด ใส่น้ำมันให้ท่วม เมื่อน้ำมันร้อนจัดแล้ว นำเห็ดลงไปทอดหมั่นคนเพื่อไม่ให้เห็ดไหม้ติดกระทะ (ดูพอเห็ดเลืองกรอบก็ใช้ได้)

5. เมื่อทอดเสร็จแล้ว ให้ตักเห็ดลงในถาดที่เตรียมไว้ รอจนกว่าจะสะเด็ดน้ำมัน แล้วนำไปพักในถาดที่รองด้วยกระดาษซับมันอีกทีหนึ่ง พักไว้1 วัน จากนั้นนำเข้าเตาอบ 100 องศาเซลเซียส ใช้เวลา 30 นาที เท่านั้นก็เสร็จเรียบร้อย ใส่ลงในถุงพลาสติกหรือกล่องพลาสติกก็ได้ แต่ต้องปิดให้สนิทไม่ให้ลมเข้าเพราะจะทำให้นิ่ม

3.เห็ดนางฟ้าแดดเดียว

ส่วนผสมสำหรับ เมนูเห็ดนางฟ้าแดดเดียว

1. เห็ดนางฟ้า 1/2 ก.ก
2. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำมันงา 1 ช้อนชา
4. ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
6. ซีอิ้วดำ (ใส่พอให้มีสีสันน่ารับประทาน)
7. ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
8. งาขาวคั่ว ตามแต่ชอบ

วิธีทำ เห็ดนางฟ้าแดดเดียว

1. นำเห็ดนางฟ้ามาคลุกรวมกับเครื่องปรุง หมักไว้ประมาณ 30 นาที
2. แล้วนำเห็ดนางฟ้าที่หมัก มาแผ่ลงบนกระด้ง หรือถาดตากกลางแดดไว้ 1 วัน
3. เวลารับประทานให้นำมาทอดกับน้ำมันที่ร้อนจัด จะมีรสชาติที่อร่อย อย่าบอกใครเชียวล่ะ